1. มะขามคางคก ต้นไม้หายากใกล้สูญพันธุ์
มะขามคางคก ต้นไม้หายากใกล้สูญพันธุ์ #มะขามคางคก(อัมพวา) ชื่อสามัญ Nam nam ชื่อวิทยาศาสตร์ Cynometra cauliflora L. ชื่อวงศ์ LEGUMINOSAE ชื่ออื่น : มะเปรียง นํานํา นางอาย ลูกอาย มะเปรียง บูรานัม ลูกอัมพวา มังคะ หล่ําหล่ํา ลูกคางคกมะขามคางคก #มะขามคางคกหรือลูกอัมพวา ชื่ออื่น มะเปรียง นํานํา นางอาย ลูกอาย มะเปรียง บูรานัม ลูกอัมพวา มังคะ หล่ําหล่ํา ลูกคางคก มะขามคางคก มีลักษณะผิวขรุขระเป็นคลื่น มีส่วนคล้ายกับผิวหนังของคางคก และมีรสเปรี้ยว จึงเรียกตามลักษณะและรสชาติ #อัมพวาหรือมะขามคางคก มีถิ่นกําเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบแพร่กระจายไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นไม้พื้นเมืองของมาเลเซีย เรียกว่า นัมนัม (Namnam) ยังมีชื่อเรียกอย่างอื่นอีก เช่น นามู-นามู (namu-namu) โกปิ อันจิง (kopi anjing) ปูกิ (puki) อินโดนีเซีย เรียก มนัม (Namnam) และปูรู Puru #มะขามคางคก เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สันนิษฐานว่าน่าจะมีถิ่นกําเนิดอยู่ทางตะวันออกของประเทศมาเลเซีย พบมีการกระจายพันธุ์อยู่ทั้งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศอินเดีย ทางภาคใต้และภาคกลางของประเทศไทยมักปลูกไว้ในสวนบริเวณบ้านเพื่อใช้ประโยชน์ หรือปลูกในกระถางเพื่อเป็นไม้ประดับ เจริญเติบโตได้ดีในบริเวณชายน้ํา ด้วยลักษณะสีของผลและผิวที่ขรุขระชาวภาคใต้จึงมักจะเรียกว่า “#ผลลูกคางคก” #ลําต้น มะขามคางคก เป็นพันธุ์ไม้ที่มีทรงพุ่มทึบสวยงาม ขนาดของลําต้นสูงประมาณ 3-15 เมตร เปลือกต้นมีสีน้ําตาลเทา #ใบ เป็นใบประกอบรูปไข่ มีใบย่อยออกเป็นคู่แยกกันคล้ายปีกผีเสื้อ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ มีสีเขียวอ่อน เมื่อใบยังอ่อนจะมีสีขาว หรือสีชมพู และห้อยลงมา #ดอก ออกเป็นช่อกระจุกรวมกันอยู่ตามปมของลําต้น กลีบดอกมีสีขาว มีกลีบเลี้ยงสีขาวอมชมพู ก้านดอกจะถูกหุ้มอยู่ด้วยเกล็ดสีน้ําตาล #ผล มีรูปร่างแบน ลักษณะคล้ายไต ผิวผลขรุขระ เมื่อยังอ่อนจะเป็นสีน้ําตาลอมเขียว และเมื่อสุกจะกลายเป็นสีเหลือง มีน้ําหนักของผลประมาณ 200 กรัม ผลดิบมีรสเปรี้ยวคล้ายกับมะม่วงดิบ ส่วนผลสุกมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ผลจะสุกหลังจากออกผลมามาแล้วประมาณ 2-3 เดือน หรือเมื่อผิวของผลเป็นสีน้ําตาลอมเหลืองก็ให้ทําการเก็บเกี่ยวได้ #เมล็ด ภายในผลมีเมล็ดลักษณะแบนสีน้ําตาล ซึ่งคล้ายกับเมล็ดมะม่วงเพียง 1 เมล็ด #การขยายพันธุ์ต้นมะขามคางคก สามารถทําได้ง่ายๆ ด้วยการ..#เพาะเมล็ด หรือจะใช้วิธี...#ตอนกิ่งก็ได้ #มะขามคางคกสามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่ลุ่มเขตร้อนในเขตมรสุม ชอบที่โล่งแจ้งกลางแดด ต้องการปริมาณน้ําฝนประมาณ 1,500-2,000 มม./ปี ลําต้นสามารถต้านทานต่อลมแรงได้ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการปลูกอยู่ที่ประมาณ 22-35 องศาเซลเซียส หรือแม้แต่ในที่ร่มเงาก็สามารถเจริญเติบโตได้เช่นกัน. #ต้นมะขามคางคกจะเจริญเติบโตขึ้นมาหลังจากเพาะเมล็ดไปได้ประมาณ 3 เดือน การเจริญเติบโตในช่วงแรกๆ จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ต่อมาจะค่อยๆ ช้าลง และเมื่อปลูกไปได้ประมาณ 6 ปี ก็จะเริ่มให้ดอก ในบางพื้นที่อาจติดดอกได้ตลอดทั้งปี ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรูพืช แต่ควรมีการป้องกันการทําลายผลของหนูหรือพวกหนอนเจาะ ด้วยการใช้ถุงมาห่อหุ้มผล #มะขามคางคก เป็นผลไม้พื้นบ้านที่ค่อนข้างหาได้ยากในปัจจุบัน ซึ่งไม่นิยมปลูกกันมากนัก ในบางพื้นที่พบว่ามีอายุมากกว่าร้อยปี เป็นพืชที่มีทรงพุ่มและใบสวยงาม ส่วนผลก็นํามารับประทานได้ จึงสามารถปลูกไว้เป็นไม้ผลในสวน #ประโยชน์ *#ผลแก่-ใช้รับประทานสด หรือนําไปต้มน้ําตาล ทําเป็นสลัดผลไม้ *#ผลสุก-ใช้รับประทานเป็นผลไม้ *#เปลือกต้นและราก-ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับเลือด รักษาโรคมะเร็ง *#เนื้อไม้-ใช้ในงานก่อสร้างต่างๆ