คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากปุ๋ยกิฟฟารีน มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง ปุ๋ยกิฟฟารีน และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา ปุ๋ยกิฟฟารีน วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ ปุ๋ยกิฟฟารีนยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!
2. [ส่งฟรี] ปุ๋ยลําใย ปุ๋ย กิฟฟารีน ปุ๋ยทางใบ ระยะก่อนเก็บเกี่ยว 1 เดือน Giffarine
ปุ๋ยลําใย กิฟฟารีน ปุ๋ยทางใบ ระยะก่อนเก็บเกี่ยว 1 เดือน อัตราผสมต่อน้ํา 200 ลิตร พ่น 2 ครั้งห่างกัน 7 วัน *เกรทกรีน อัตรา 30 ซีซี *โบโรแคล อัตรา 100 กรัม *ปุ๋ยโกรแม็กซ์สูตร20-20-20 อัตรา 500 กรัม การใช้ปุ๋ยบุญพืชในลําไย มกราคม (ระยะแทงช่อดอก) • การให้น้ํา เมื่อเห็นเป็นช่อดอกแล้วควรมีการให้น้ําเล็กน้อยและเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อย ๆ • การใส่ปุ๋ย พ่นอาหารเสริมทางใบด้วยต้าร์ต้าร์ สูตรไม้ผล อัตรา 20 ซีซี ต่อน้ํา 20 ลิตร เพื่อบํารุงช่อดอกและการติดผลที่ดี • การป้องกันกําจัดโรคแมลง ระยะนี้อาจมีการระบาดของแมลงศัตรูช่อดอกเช่นหนอนกินดอก หนอนเจาะก้านดอก มวน ลําไย ควรทําการพ่นสารกําจัดแมลงเป็นระยะ เกษตรกรสามารถใช้ต้าร์ต้าร์ผสมร่วมสารกําจัดแมลงฉีดพ่นในครั้งเดียวเพื่อลดขั้นตอนการฉีดพ่นได้ กุมภาพันธ์ (ระยะดอกบาน) • การให้น้ํา ควรให้น้ําอย่างสม่ําเสมอ สามารถนําผึ้งมาเลี้ยงในระยะนี้เพื่อช่วยในการผสมเกสร • การป้องกันกําจัดโรคแมลง งดฉีดฮอร์โมนหรือสารป้องกันกําจัดโรคแมลงทุกชนิดในระยะนี้ เพื่อให้มีแมลงมาช่วยในการผสมเกสรให้มากที่สุด มีนาคม-เมษายน (ระยะติดผลขนาดเล็ก) • การให้น้ํา ระยะนี้ต้องให้น้ําอย่างสม่ําเสมอ ถ้าขาดน้ําจะทําให้ผลแคระแกร็นและร่วงมาก • การใส่ปุ๋ย ระยะติดผลขนาดหัวไม้ขีดไฟ ใส่ปุ๋ยบุญพืช สูตรบํารุงผลสร้างเนื้อจัมโบ้ อัตรา 1-2 กก./ต้น หรือใช้ผสมร่วมปุ๋ยเคมี สูตรที่ใช้ อัตรา 3 : 1 ส่วน เพื่อบํารุงผลให้โตอย่างสม่ําเสมอ ฉีดพ่นต้าร์ต้าร์ ทุก 15 วัน • การป้องกันกําจัดโรคแมลง ในระยะนี้อาจมีการระบาดของ หนอนเจาะขั้วผลมวนลําไย แมลงปีกแข็ง ควรหมั่นสังเกตและกําจัด หรือใช้ต้าร์ต้าร์ผสมร่วมสารกําจัดแมลงฉีดพ่นในครั้งเดียวเพื่อลดขั้นตอนการฉีดพ่นได้ พฤษภาคม-กรกฎาคม (ระยะผลกําลังเจริญเติบโต) • การให้น้ํา ให้น้ําอย่างสม่ําเสมอ • การใส่ปุ๋ย ก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต 30-45 วัน ใส่ปุ๋ยบุญพืชสูตรบํารุงผลสร้างเนื้อจัมโบ้ ผสมร่วมปุ๋ยเคมีสูตรที่ใช้ อัตรา 3 : 1 ส่วน อัตราต้นละ 1-2 กก.เพื่อเพิ่มคุณภาพของผลผลิตให้ดีขึ้น ช่วงนี้ให้ฉีดพ่นต้าร์ต้าร์ทุก 15 วันเพื่อให้ลําไยผลใหญ่และช่วยให้สีผิวสวยทั้งช่อ • การป้องกันกําจัดโรคแมลง ในสวนบางท้องที่ ในระยะนี้อาจมีการทําลายของค้างคาว ควรใช้ตาข่ายไนล่อนกันตามแนวช่องระหว่างต้น เพื่อดักจับไปทําลาย นอกจากนี้ยังมีผีเสื้อมวนหวาน แมลงวันทอง ควรรีบทําการป้องกันกําจัด หรือใช้ต้าร์ต้าร์ผสมร่วมสารกําจัดแมลงฉีดพ่นในครั้งเดียวเพื่อลดขั้นตอนการฉีดพ่นได้ ปล.ระยะนี้ผลกําลังเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ กิ่งจะรับน้ําหนักมากขึ้น ควรทําการค้ํากิ่งด้วยไม้ไผ่ เพื่อช่วยพยุงกิ่งไม่ให้ฉีกหัก สิงหาคม (ระยะเก็บเกี่ยวผลผลิต) • การให้น้ํา ควรงดการให้น้ําก่อนการเก็บเกี่ยว 7-10 วัน • การเก็บเกี่ยว การขึ้นไปเก็บผลผลิตควรใช้บันไดหรือพะองพาดกิ่งขึ้นไป ใช้กรรไกรตัดช่อผลให้ลึกเข้าไปประมาณ 1 ฟุต จากปลายช่อไม่ควรใช้มือหัก ช่อผลโดยตรงเพราะจะทําให้ปลายกิ่งที่เหลืออยู่เป็นแผลซ้ํา หรือมีรอยฉีกขาดเข้าไปในกิ่งทําให้การแตกยอดอ่อนใหม่รวมทั้งการแทงช่อดอกในปีต่อไปจะไม่ดีด้วย ควรทยอยเก็บช่อผลที่แก่เต็มที่แล้วประมาณ 5-7 วันต่อครั้งจนหมด ต้นอย่าให้ผลแก่จัดตกค้างอยู่บนต้นนานจะทําให้คุณภาพต่ําลง กันยายน-ตุลาคม (ระยะหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต การตัดแต่งกิ่ง) หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ควรตัดกิ่งที่ถูกโรคแมลงเข้าทําลาย กิ่งฉีกหัก กิ่งน้ําค้าง กิ่งไขว้ซ้อนกัน เพื่อให้ทร
3. กิฟฟารีน#โบโรแคล #ปุ๋ยกิฟฟารีน
โบโร-แคล โบโร-แคล ประกอบด้วย แคลเซียม ในรูปของแคลเซียมคีเลทหรือในรูป แคลเซียม 9% และโบรอน 2% เป็นผลิตภัณฑ์ที่แนะนําให้สมาชิกใช้ทุกครั้งที่มีการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ ยาป้องกันกําจัดแมลง ยาป้องกันกําจัดเชื้อรา เพราะ 1. พืชต้องการแคลเซียมทุกระยะการเจริญเติบโต และธาตุแคลเซียม เป็นธาตุที่ไม่เคลื่อนย้ายในพืช หลังจากเป็นส่วนประกอบของเซลล์แล้ว 2. กระตุ้นการแตกราก ทําให้รากดูดน้ําและแร่ธาตุจากดินได้มากขึ้น 3. ทําให้พืชทนแล้ง เนื่องจากระบกรากหยั่งลึกและมีปริมารณมาก 4. ทําให้ผนังเซลล์มีความแข็งแรงมากสามารถป้องกันการเข้าทําลายของเชื้อโรคโดยเฉพาะเชื้อราได้ดี 5. สามารถป้องกันโรคเชื้อราที่เกิดกับผลผลิตในช่วงใกล้เก็บเกี่ยวหรือเก็บเกี่ยวไปแล้วจากเชื้อราได้ดี เช่น โรคก้นเน่าของมะเขือเทศ พริกหยวก พริกหวาน โรคราที่เปลือกของผลไม้ ผลจุดของฝรั่ง 6. เสริมสร้างความแข็งแรงของเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย ความแข็งแรงของรังไข่ แก้ปัญหาการหลุดร่วง 7. เพิ่มอัตราการเคลื่อนย้ายอาหารจากใบมาที่ผลหรือหัวหรือส่วนผลผลิตที่เก็บเกี่ยว ทําให้ผลผลิตมีน้ําหนักดี รสชาติดี ทนทานต่อการขนส่งและมีอายุหลังการเก็บเกี่ยวนาน 8. ช่วยแก้ปัญหาไส้กลวง เนื่องจากขาดโบรอน ในหัวไชเท้าหรือการห่อหัวไม่แน่นของกะหล่ําปลี แก้ปัญหาดอกเป็นจุดดําของกะหล่ําดอก หมายเหตุ : ใช้โบโร-แคล ทุกครั้งป้องกันเชื้อรา รหัสสินค้า 50701 ขนาด 300 กรัม ราคาเต็ม 360 บาท รหัสสินค้า 50702 ขนาด 1 กก. ราคาเต็ม 984 บาท #กิฟฟารีน#ปุ๋ย#ปุ๋ยกิฟฟารีน#อาหารเสริมต้นไม้#โบโรแคล#กิฟฟารีนออนไลน์ NoBrand
4. ปุ๋ย กิฟฟารีน ปุ๋ยเกล็ดทางใบ ฉีดทางใบ ปุ๋ยโกรแม็ก
Giffarine. ปุ๋ยกิฟฟารีน30 10 10: ในชุดประกอบด้วยเม็ดมะเขือเทศ16ออนซ์ซึ่งช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคและช่วยให้มั่นใจได้ถึงรสชาติสูงสุด ปุ๋ยกิฟฟารีน20 20 20: ด้วยการผสมผสานของน้ํามันมะกอกและน้ําส้มสายชูที่ปราศจากกลูเตนและปราศจากกลูเตนและปราศจากนม ปุ๋ยเกล็ดกิฟฟารีน: ด้วยการผสมผสานที่เป็นกรรมสิทธิ์ของน้ํามันหล่อลื่นและน้ําส้มสายชูที่ออกแบบมาเป็นพิเศษซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติ ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ: ลดการสะสมของสารเคมีและสารปนเปื้อนในระยะยาว ปุ๋ยน้ํากิฟฟารีน: ปราศจากน้ําผึ้งปราศจากกลูเตนปราศจากกลูเตนปราศจากกลูเตนปราศจากกลูเตนปราศจากนมปราศจากกลูเตนปราศจากนมปราศจากกลูเตนปราศจากกลูเตนและปราศจากกลูเตน
5. ชุดปุ๋ยทุเรียน กิฟฟารีน Giffarine ปุ๋ยเกล็ด ปุ๋ยทางใบ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง COD [Kerry] >> สินค้ามีสต๊อคพร้อมส่ง >> ส่งฟรี [เก็บโค้ด Shopee] ----------------------- ปุ๋ยเกล็ด สําหรับทุเรียน GIFFARINE ปุ๋ยทางใบ นําเข้าจากอิสราเอล ครบทุกช่วงระยะการเจริญเติบโต มีทั้งหมด 6 ช่วงระยะ ได้แก่ 1. ระยะบํารุงใบ 2. ระยะสะสมอาหาร 3. ระยะไข่ปลา 4. ระยะหางแยงไหม้ ถึงผลขนาด 1-2 กิโลกรัม 5. ระยะขยายพู 6. ระยะเต็มร่าง เร่งสี เพิ่มน้ําหนัก และคุมใบอ่อน ก่อนเก็บเกี่ยว [ สูตรทําเงิน ] ระยะที่ 1 ระยะบํารุงใบ ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบทุก 7-10 วันต่อครั้ง โดยใช้ปุ๋ยดังนี้ 1. เกรทกรีน (สารจับใบ) จํานวน 30 CC (หรือ 1 ฝา) 2. โบโรแคล (โบรอน-แคลเซียม) จํานวน 1 ขีด (หรือ 100 กรัม) 3. ปุ่ยสูตร 20-20-20 จํานวน 5 ขีด (หรือ 500 กรัม) 4. เม็กก้าซิงค์ (ปุ๋ยสังกะสี E D T A อยู่ในรูปคีเลท) จํานวน 1 ขีด (หรือ 100 กรัม) ปริมาณที่คํานวณสําหรับถัง 200 ลิตรนะครับ ระยะนี้เน้นการฉีดพ่นที่ใบ ราคาชุดนี้ 1,720 บาท ประกอบด้วย - เกรทกรีน 1 ลิตร - โบโรแคล 300 กรัม - ปุ๋ย 20-20-20 1 กิโลกรัม - เม็กก้าซิงค์ 300 กรัม * ฉีดได้จํานวน 2 ถัง 200 ลิตร หากใช้ปริมาณเยอะรบกวนทักแชทคุยรายละเอียด เพื่อได้ราคาที่ถูกกว่านะครับ ========================= ระยะที่ 2 ระยะสะสมอาหาร ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบทุก 7-10 วันต่อครั้ง โดยใช้ปุ๋ยดังนี้ 1. เกรทกรีน (สารจับใบ) จํานวน 30 CC (หรือ 1 ฝา) 2. โบโรแคล (โบรอน-แคลเซียม) จํานวน 1 ขีด (หรือ 100 กรัม) 3. ท็อปเค [ ปุ๋ย 0-0-25 ] จํานวน 300 CC 4. ปุ๋ยเทอร์โบไทโอแม็ก จํานวน 200 CC ปริมาณที่คํานวณสําหรับถัง 200 ลิตรนะครับ ระยะนี้เน้นการฉีดพ่นที่ใบและดอก ราคาชุดนี้ 1650 บาท ประกอบด้วย - เกรทกรีน 1 ลิตร - โบโรแคล 300 กรัม - ท็อปเค 1 ลิตร - เทอร์โบไทโอแม็ก 1 ลิตร * ฉีดได้จํานวน 3 ถัง 200 ลิตร หากใช้ปริมาณเยอะรบกวนทักแชทคุยรายละเอียด เพื่อได้ราคาที่ถูกกว่านะครับ ========================= ระยะที่ 3 ระยะไข่ปลา ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบทุก 7-10 วันต่อครั้ง โดยใช้ปุ๋ยดังนี้ 1. เกรทกรีน (สารจับใบ) จํานวน 30 CC (หรือ 1 ฝา) 2. โบโรแคล (โบรอน-แคลเซียม) จํานวน 1 ขีด (หรือ 100 กรัม) 3. ปุ๋ย 10-52-17 จํานวน 5 ขีด หรือ 500 กรัม 4. เม็กก้าซิงค์ (ปุ๋ยสังกะสี E D T A อยู่ในรูปคีเลท) จํานวน 1 ขีด (หรือ 100 กรัม) ปริมาณที่คํานวณสําหรับถัง 200 ลิตรนะครับ ระยะนี้เน้นการฉีดพ่นที่ใบและดอก ราคาชุดนี้ 1747 บาท ประกอบด้วย - เกรทกรีน 1 ลิตร - โบโรแคล 300 กรัม - ปุ๋ย 10-52-17 1 กิโลกรัม - เม็กก้าซิงค์ 300 กรัม * ฉีดได้จํานวน 2 ถัง 200 ลิตร หากใช้ปริมาณเยอะรบกวนทักแชทคุยรายละเอียด เพื่อได้ราคาที่ถูกกว่านะครับ ========================= ระยะที่ 4 ระยะหางแยงไหม้ ถึงผลขนาด 1-2 กิโลกรัม ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบทุก 7-10 วันต่อครั้ง โดยใช้ปุ๋ยดังนี้ 1. เกรทกรีน (สารจับใบ) จํานวน 30 CC (หรือ 1 ฝา) 2. โบโรแคล (โบรอน-แคลเซียม) จํานวน 1 ขีด (หรือ 100 กรัม) 3. ปุ๋ย 15-15-15 จํานวน 5 ขีด หรือ 500 กรัม 4. ท็อปเอ็น 30-0-0 จํานวน 300 CC 5. แมกนีเซีย 2 ขีด (หรือ 200 กรัม) ปริมาณที่คํานวณสําหรับถัง 200 ลิตรนะครับ ระยะนี้เน้นการฉีดพ่นที่ใบและดอก ราคาชุดนี้ 1777 บาท ประกอบด้วย - เกรทกรีน 1 ลิตร - โบโรแคล 300 กรัม - ปุ๋ย 15-15-15 1 กิโลกรัม - ท็อปเอ็น 30-0-0 1 ลิตร - แมกนีเซีย 1 กิโลกรัม * ฉีดได้จํานวน 2-3ถัง 200 ลิตร หากใช้ปริมาณเยอะรบกวนทักแชทคุยรายละเอียด เพื่อได้ราคาที่ถูกกว่านะครับ ========================= ระยะที่ 5 ระยะขยายพู ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบทุก 7-10 วันต่อครั้ง โด
6. ปุ๋ยกิฟฟารีน สารเสริมประสิทธิภาพ เกรทกรีน ช่วยดูดซึมสารอาหารและปรับสภาพน้ํา ขนาด 5 ลิตร
Giffarine. คุณสมบัติของสารเสริมประสิทธิภาพ. 1. ลดแรงตึงผิวของละอองน้ํายากับผิวใบ ทําให้น้ํายาเปียกใบอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว น้ํายาไม่เลอะ ดอกหรือใบ. 2. ช่วยการเกาะติดและการดูดซึมของปุ๋ยหรือยากับใบพืช. 3. ลดการสูญเสียของปุ๋ยหรือยา เนื่องจากการชะล้างของฝน ต้องการระยะปลอดฝน 4 ชั่วโมง). 4. ประหยัดน้ํายาเนื่องจากน้ํายาเปียกทั่วต้นอย่างรวดเร็ว. 5. ช่วยรักษาอุปกรณ์ในการฉีดพ่น ป้องกันหัวฉีดอุดตัน. 6. ตัวยาจะเข้ากันเป็นเนื้อเดียว กรณีต้องฉีดยาหลายชนิด. รายละเอียดขนาดและราคา. เกรทกรีน: รหัสสินค้า 50101 ขนาด 1 ลิตร. ราคาเต็ม 460 บาท, ราคาสมาชิก 345 บาท, พีวี 241.50. รหัสสินค้า 50102 ขนาด 5 ลิตร. ราคาเต็ม 2,100 บาท, ราคาสมาชิก 1,575 บาท
7. [ส่งฟรี] ปุ๋ย กิฟฟารีน ปุ่ยทางใบ ปุ๋ยมะม่วง ระยะผลใหญ่ Giffarine
ปุ๋ย กิฟฟารีน ปุ่ยทางใบ ปุ๋ยมะม่วง ระยะผลใหญ่ อัตราผสมต่อน้ํา 200 ลิตรฉีดพ่นทุก 10-15 วัน *เกรทกรีน อัตรา 30 ซีซี *โบโรแคล อัตรา 50 กรัม *ปุ๋ยโกรแม็กซ์สูตร20-20-20 อัตรา 500-700 กรัม เคล็ดลับ : การทําให้มะม่วงติดผลดี ในช่วงดอกเริ่มบาน ถึงเริ่มขึ้นลูก กรณีฝนตกชุกระยะก้างปลา ดอกบาน 5% และเริ่มขึ้นลูก ให้ใช้ : เกรทกรีน 30ซีซี โบโรแคล 200 กรัม เม็กก๊าซิงค์ 100กรัม ผสมกับยาฆ่าเพลี้ยไฟ และยาป้องกันเชื้อรา พ่นระยะก้างปลา ดอกบาน 1 ครั้ง พ่นเป็นละออง ห้ามพ่นเปียกมาก และพ่นระยะเริ่มขึ้นลูก 2-3 ครั้งทุก 7 วัน *** ในช่วงดอกเริ่มบาน ถึงขึ้นลูกกรณีลมแรง อากาศหนาวจัด ให้ใช้ : เกรทกรีน 30ซีซี โบโรแคล 50 กรัม ท๊อปเอ็น 300 ซีซี ผสมกับยาฆ่าเพลี้ยไฟ และยาป้องกันเชื้อรา พ่นเป็นละออง ห้ามพ่นเปียกมาก Giffarine
8. ปุ๋ย กิฟฟารีน เจอร์มิเนท Germinate กระตุ้นการงอกของเมล็ด กระตุ้นราก กระตุ้นยอด ช่วยให้พืช ทนแล้ง จัด ทนเย็น จัด ปุ๋ยเร่งราก ปุ๋ยน้ําทางใบ
Giffarine. ปุ๋ยเกล็ดกิฟฟารีน 20 20 20. ปุ๋ยฉีดทางใบมันสําปะหลัง. ปุ๋ยกิฟฟารีนลิคไอออน. ปุ๋ยกิฟฟารีน20 20 20. ปุ๋ยกิฟฟารีน15 15 15. เจอร์มิเนท กิฟฟารีน ธาตุอาหารรอง-เสริม. เจอร์มิเนท สารสกัดชีวภาพ 100 เจอร์มิเนท: กรดอมิโน 19 ชนิด ในรูปของกรดอมิโนอิสระ L amino acid ที่สามารถดูกซึมเข้าสู่เซลล์พืชอย่างรวดเร็วและเป็นจํานวนมาก พืชสามารถนําไปใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องย่อยสลายอีก. วัตถุประสงค์. 1. ใช้แช่เมล็ดก่อนปลูกเพื่อการงอก 100 และทําให้ต้นกล้าแข็งแรง เปอร์เซนต์รอดสูง. 2. ใช้ฉีดพ่นทางใบ เพื่อกระตุ้นการเกิดยอดใหม่ หรือ ช่วยการออกดอกและติดผล. 3. ฉีดพ่นเมื่อพืชอยู่ในสภาวะเครียด Stress เช่น กระทบหนาวจัด. เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช. เมื่ออยู่ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หรือสภาวะแวดล้อมที่ไม่ปกติ เช่น อากาศหนาวหรืออากาศร้อนผิดปกติ ในภาวะดังกล่าว เอ็นไซม์ต่าง ๆ จะไม่ทํางาน ทั้งนี้อาจเนื่องมาจาก เอ็นไซม์ไม่ได้ถูกสร้าง หรือถูกสร้างน้อยเกินไป จนทําให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ การใช้เจอร์มิเนท จะช่วยให้พืชมีกรดอมิโน เพื่อใช้ในการสร้างเอ็นไซม์ ที่พืชต้องการใช้ ทําให้พืชสามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ตามปกติ หรือลดการเสียหายลงไป. นอกจากหน้าที่หลัก ๆ แล้ว เจอร์มิเนท ยังช่วยพืชในขบวนการสังเคราะห์แสง และขบวนการหายใจด้วย เพื่อช่วยในการงอกของเมล็ด. ขณะที่เมล็ดกําลังงอก โปรตีนที่ถูกสะสมไว้ในเมล็ด จะถูกย่อยสลายมาเป็นกรดอมิโน เพื่อนํามาใช้ในการสร้างโปรตีนที่จําเป็นในการเจริญเติบโตของยอดและรากที่จะเกิดใหม่ การใช้ เจอร์มิเนท จึงเป็นเสมือน การเพิ่มชนิดและปริมาณของกรดอมิโนให้กับพืชโดยตรง ทําให้พืชได้รับเพิ่มจากที่มีอยู่แล้ว หรือมีไม่เพียงพอ ในกรณีที่เมล็ดไม่สมบูรณ์. เจอร์มิเนท กิฟฟารีน ธาตุอาหารรอง-เสริม. เจอร์มิเนท สารสกัดชีวภาพ 100 เจอร์มิเนท: กรดอมิโน 19 ชนิด ในรูปของกรดอมิโนอิสระ L amino acid ที่สามารถดูกซึมเข้าสู่เซลล์พืชอย่างรวดเร็วและเป็นจํานวนมาก พืชสามารถนําไปใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องย่อยสลายอีก. วัตถุประสงค์. 1. ใช้แช่เมล็ดก่อนปลูกเพื่อการงอก 100 และทําให้ต้นกล้าแข็งแรง เปอร์เซนต์รอดสูง. 2. ใช้ฉีดพ่นทางใบ เพื่อกระตุ้นการเกิดยอดใหม่ หรือ ช่วยการออกดอกและติดผล. 3. ฉีดพ่นเมื่อพืชอยู่ในสภาวะเครียด Stress เช่น กระทบหนาวจัด. เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช. เมื่ออยู่ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หรือสภาวะแวดล้อมที่ไม่ปกติ เช่น อากาศหนาวหรืออากาศร้อนผิดปกติ ในภาวะดังกล่าว เอ็นไซม์ต่าง ๆ จะไม่ทํางาน ทั้งนี้อาจเนื่องมาจาก เอ็นไซม์ไม่ได้ถูกสร้าง หรือถูกสร้างน้อยเกินไป จนทําให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ การใช้เจอร์มิเนท จะช่วยให้พืชมีกรดอมิโน เพื่อใช้ในการสร้างเอ็นไซม์ ที่พืชต้องการใช้ ทําให้พืชสามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ตามปกติ หรือลดการเสียหายลงไป. นอกจากหน้าที่หลัก ๆ แล้ว. เจอร์มิเนท. ยังช่วยพืชในขบวนการสังเคราะห์แสง และขบวนการหายใจด้วย. ขณะที่เมล็ดกําลังงอก โปรตีนที่ถูกสะสมไว้ในเมล็ด จะถูกย่อยสลายมาเป็นกรดอมิโน เพื่อนํามาใช้ในการสร้างโปรตีนที่จําเป็นในการเจริญเติบโตของยอดและรากที่จะเกิดใหม่ การใช้ เจอร์มิเนท จึงเป็นเสมือน การเพิ่มชนิดและปริมาณของกรดอมิโนให้กับพืชโดยตรง ทําให้พืชได้รับเพิ่มจากที่มีอยู่แล้ว หรือมีไม่เพียงพอ ในกรณีที่เมล็ดไม่สมบูรณ์). เพื่อกระตุ้นการแตกยอดใหม่ การแตกดอก และการติดตา. ขณะที่พืชกําลังแตกยอดหรือส่วนการเจริญเติบโตใหม่ เซลล์ที่เกิดใหม่นี้มีความจําเป็นที่จะต้องใช้กรดอมิโน เพื่อการเจริญเติบโต ซี่งพืชจะได้จากการย่อยสลายโปรตีนจากเซลล์ของใบแก่ หรือสร้างขึ้นใหม่ ดังนั้น การใช้เจอร์มิเนท จึงเป็นการเพิ่มกรดอมิโนให้กับพืชโดยตรงอีกทางหนึ่ง ที่พืชจะใช้ในช่วงดังกล่าว